ในปัจจุบัน เทรนด์ของการใช้รถยนต์ไฟฟ้า หรือรถ EV มาแรงแบบสุด ๆ และได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตามน่าจะมีคนจำนวนไม่น้อยที่ยังสงสัยว่าการเปลี่ยนจากรถยนต์น้ำมันไปใช้รถยนต์ EV ดีกว่ากันอย่างไร รวมถึงนวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้าจะเป็นคำตอบของยานพาหนะและการขนส่งในโลกอนาคตจริง ๆ หรือไม่ บทความนี้จะมาอธิบายไขข้อข้องใจเหล่านี้ให้กระจ่าง ติดตามได้เลย
“โลกร้อน” ปัญหาที่คนส่วนใหญ่มองข้าม แต่ใกล้ตัวกว่าที่คิด
ปัญหาโลกร้อน เป็นหนึ่งในปัญหาสำคัญที่ไม่ได้กระทบแค่มนุษย์ แต่ยังกระทบต่อสัตว์และสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ซึ่งอุณหภูมิที่สูงขึ้นเพียง 1 องศาเซลเซียส สร้างความเปลี่ยนแปลงทางสภาพแวดล้อมมากกว่าที่คิด ไม่ว่าจะเป็นการที่น้ำแข็งขั้วโลกละลาย สัตว์บางชนิดสูญพันธุ์ ระบบนิเวศต่าง ๆ มีการเปลี่ยนแปลง การที่อุณหภูมิโลกมีการเปลี่ยนแปลง เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา แต่ในช่วงทศวรรษหลัง ๆ การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งเมื่อเทียบกับช่วงปลายศตวรรษที่ 19 กับปัจจุบัน โลกร้อนขึ้นถึง 1.1 องศาเซลเซียส สาเหตุที่โลกร้อนขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจำนวนมหาศาล ทั้งจากโรงงานอุตสาหกรรมที่เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว และการสันดาปของรถยนต์ ที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก ออกมาในสัดส่วนที่เพิ่มมากขึ้นจากในอดีต
นวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้ากับปัญหาโลกร้อน
เมื่อโลกเผชิญกับปัญหาโลกร้อน ทำให้หลายประเทศหันมาให้ความสำคัญกับการลดก๊าซเรือนกระจกกันมากขึ้น โดยมีการตั้งเป้าหมายในการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เป็น 0 หรือ Net Zero และมีการพัฒนานวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้าขึ้นมาทดแทนรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในปัจจุบัน
รถยนต์ไฟฟ้าช่วยลดโลกร้อนได้อย่างไร ?
รถยนต์ไฟฟ้า คือ รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ไม่ใช้เครื่องยนต์สันดาปที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และฝุ่นละออง จึงช่วยลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม ลดมลพิษทางอากาศ และลดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา
เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แทนการสันดาป
รถยนต์ไฟฟ้า คือ รถที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนแทนการใช้เครื่องยนต์ โดยเก็บพลังงานการขับเคลื่อนไว้ในแบตเตอรี่รถยนต์ ปัจจุบันสามารถแบ่งได้หลัก ๆ 3 ประเภท คือ
- รถยนต์ไฟฟ้าแบบไฮบริด เป็นการผสมผสานระหว่างการใช้เครื่องยนต์กับการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า โดยจะชาร์จไฟจากการขับเคลื่อนรถยนต์ด้วยพลังงานเชื้อเพลิง จึงประหยัดพลังงานมากกว่ารถยนต์ทั่วไป แต่ไม่สามารถชาร์จไฟจากภายนอกได้
- รถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริด สามารถขับเคลื่อนได้สองระบบ คือ จากน้ำมันเชื้อเพลิงและไฟฟ้า ที่สำคัญคือสามารถเสียบไฟชาร์จจากภายนอกได้
- รถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กอิน ใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อน 100% โดยต้องชาร์จไฟจากภายนอกเพื่อใช้ในการขับเคลื่อนรถยนต์
เปรียบเทียบการปล่อยก๊าซเรือนกระจกระหว่างรถยนต์ EV กับรถยนต์สันดาป
เมื่อเปรียบเทียบการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากรถยนต์ทั้งสองประเภท ทั้งวงจรชีวิต ตั้งแต่การผลิตไปจนถึงการกำจัดซาก พบว่า รถยนต์สันดาปปล่อยก๊าซเรือนกระจกเฉลี่ย 57 เมตริกตันต่อคัน ส่วนรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ที่ 28 เมตริกตัน หรือน้อยกว่าครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว
ประสิทธิภาพของรถยนต์ไฟฟ้าเมื่อเปรียบเทียบกับรถสันดาป
นอกจากในเรื่องของลดการปล่อยมลพิษแล้ว รถยนต์ไฟฟ้ายังมีข้อดีและประสิทธิภาพที่เหนือกว่ารถยนต์สันดาป ดังต่อไปนี้
เสียงรบกวนน้อยกว่า
มลพิษทางเสียง เป็นหนึ่งในมลพิษที่พบเจอในเมืองใหญ่ ซึ่งกระทบต่อสุขภาพของคนเรามากกว่าที่คิด โดยองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้ออกมาแถลงว่า การได้ยินเสียงการจราจรที่เกินกว่า 53 เดซิเบล อาจจะทำให้เป็นโรคความดันโลหิตสูง ไปจนถึงมีภาวะหัวใจวาย ซึ่งในกรุงเทพฯ มีระดับเสียงเฉลี่ยอยู่ที่ 76 เดซิเบลเลยทีเดียว การใช้รถยนต์ไฟฟ้าจะมีเสียงที่เงียบกว่ามาก ประมาณ 20-30 เดซิเบลเท่านั้น
ประหยัดกว่า
รถยนต์ไฟฟ้ามีราคาค่าใช้จ่ายด้านพลังงานน้อยกว่ารถยนต์ที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิงจำนวนมาก สามารถชาร์จไฟบ้านได้ โดยมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณหน่วยละ 4.5-5 บาท สามารถวิ่งได้ประมาณ 5 กิโลเมตร ซึ่งหากว่าเดือนหนึ่งใช้รถประมาณ 1,000 กิโลเมตร จะเสียค่าไฟฟ้าเดือนละประมาณ 1,000 บาท ในขณะที่รถยนต์ที่เติมน้ำมันจะกินน้ำมันประมาณ 16 กิโลเมตรต่อลิตร และเสียค่าน้ำมันอยู่ที่ประมาณ 2,000-3,000 บาทต่อเดือน
เร่งความเร็วที่รวดเร็วกว่า
รถยนต์ที่เคลื่อนที่ด้วยไฟฟ้า จะมีอัตราเร่งที่เร็วกว่ารถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ตามปกติ ช่วยให้แซงได้ดีกว่า เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ที่มากกว่าอีกด้วย
รถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตจะเป็นอย่างไร ?
ปัจจุบันยอดการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นทั่วโลก โดยในงาน Bangkok International Motor Show 2024 มียอดจองรถยนต์ไฟฟ้า 17,517 คัน คิดเป็น 32.78% ของยอดจองรถยนต์ภายในงานทั้งหมด และคาดว่าจะมียอดจองที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีแนวโน้มของรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต ดังนี้
- - รถยนต์ไฟฟ้ามีราคาที่ถูกลงเรื่อย ๆ เนื่องจากมีการแข่งขันจากหลากหลายแบรนด์ โดยเฉพาะจากจีน ที่มีกำลังการผลิตสูง ประกอบกับเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้ามีการพัฒนาแบตเตอรี่ที่จุไฟได้มากขึ้น ผลิตได้ง่ายและชาร์จไฟได้ไวมากขึ้น
- - สถานีชาร์จไฟมีอย่างทั่วถึง ไม่ว่าจะเป็นตามสถานีบริการน้ำมัน ห้างสรรพสินค้า ไปจนถึงร้านสะดวกซื้อต่าง ๆ
- - มีการให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีแก่ผู้ใช้มากขึ้น เพื่อจูงใจให้คนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่ปล่อยมลพิษน้อยกว่ามากขึ้น
สำหรับใครที่สนใจอยากจับจองเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า ต้องไม่ลืมที่จะ “ทำประกันรถยนต์ EV” กับ gettgo เพื่อช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน สามารถเช็กเบี้ยประกันรถไฟฟ้า หรือสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-111-7800 หรือ LINE OA : @gettgo
ข้อมูลอ้างอิง
- ยอดจองรถ Motor Show 2024 อยู่ที่ 53,438 คัน Toyota คว้าที่หนึ่ง ตามด้วย BYD และ Honda. สืบค้นเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2567 จาก https://www.thairath.co.th/news/auto/news/2776860
- รถไฟฟ้า EV คืออะไร?. สืบค้นเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2567 จาก https://erdi.cmu.ac.th/?p=2956
- รถยนต์ไฟฟ้า (EV) เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จริงหรือ. สืบค้นเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2567 จาก https://en.n-squared.co.th/post/ev-enviroment
- คู่มืออย่างง่าย ในการทำความเข้าใจ "โลกร้อน". สืบค้นเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2567 จาก https://www.bbc.com/thai/articles/cn4p6y31qgeo
- หากโลกร้อนขึ้น 1-6 องศาเซลเซียส. สืบค้นเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2567 จาก https://www.thaiclimatejusticeforall.com/archives/940