1. กิฟุ (Gifu) - นครแห่งประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น
เริ่มต้นกันที่แรก สำหรับคนที่มองหาเมืองท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายทางประวัติศาสตร์ และอยากมีโอกาสได้ไปสัมผัสกับมรดกทางวัฒนธรรม รวมถึงธรรมชาติที่ยังสมบูรณ์ดูสักครั้ง บอกเลยว่าต้องห้ามพลาด “กิฟุ (Gifu)” จังหวัดที่มีเสน่ห์ครบในทุกลิสต์ด้านบนที่กล่าวมา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับจุดไฮไลต์อย่าง “หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)” หมู่บ้านโบราณที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจาก UNESCO เมื่อปี 1995 นอกจากนี้ก็ยังมีแหล่งออนเซ็นธรรมชาติอย่าง “เกโระออนเซ็น (Gero Onsen)” ที่ได้รับขนานนามว่าเป็น 1 ใน 3 น้ำพุร้อนขึ้นชื่อของประเทศเลยก็ว่าได้ เรียกได้ว่า ใครที่โหยหาบรรยากาศการเที่ยวญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม อยากสัมผัสกับการใช้ชีวิต Slow Life ไม่ครึกครื้นหรือคลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากมายก็ต้องมาที่จังหวัดนี้เลย
2. เอะฮิเมะ (Ehime) - เยือนเกาะมูซูกิจิม่า (Muzukijima) เกาะแมวที่ไม่ใช่เกาะประมง
สำหรับทาสแมวต้องห้ามพลาด เพราะนี่เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่ยังไม่ได้ถูกค้นพบจากชาวต่างชาติมากนัก จึงทำให้ “เกาะมูซูกิจิม่า (Muzukijima)” ที่จังหวัดเอฮิเมะ (Ehime) กลายเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับเหล่าทาสแมว เพราะที่นี่เป็นเกาะเชิงเกษตรที่มีแมวอาศัยอยู่มากมาย!
เกาะมูซูกิจิม่าจะอยู่ห่างจากเมืองอิบารากิไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 10 กิโลเมตร โดยเกาะนี้มีความยาวประมาณ 2 กิโลเมตร และกว้างประมาณ 1 กิโลเมตร โดยมีน้องแมวมาอาศัยบนเกาะนี้กว่า 1,000 ตัวเลยทีเดียว! เรียกได้ว่าจะเดินไปตามบ้านเรือน ร้านค้า ร้านอาหาร หรือสถานที่ต่าง ๆ บนเกาะ อย่างน้อยก็จะได้เจอน้อง ๆ ในทุกจุดอย่างแน่นอน นอกจากนี้ที่นี่ยังขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่โด่งดังเรื่องการปลูกส้ม โดยจะอยู่ในช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนมกราคม ซึ่งภายในงานเทศกาลจะมีกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย เช่น การประกวดส้ม การจำหน่ายส้มสด ๆ และการแสดงดนตรี ใครที่ชอบเล่นแมวและอยากได้บรรยากาศดี ๆ วิวสวย ๆ จากไร่ส้มก็ต้องห้ามพลาด!
3. นารา (Nara) - เสน่ห์จากสถาปัตยกรรมโบราณ และสวนกวางนาราใจกลางเมือง
มาต่อกันที่เมืองท่องเที่ยวสุดคลาสสิกพร้อมด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบ เหมาะมาก ๆ สำหรับคนที่อยากเที่ยวแบบผ่อนคลาย ไม่เร่งรีบ ไม่แออัดไปด้วยผู้คน เพราะที่ “เมืองนารา” เป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมโบราณอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งถ่ายทอดผ่านอาคารบ้านเรือน ใครเป็นสายถ่ายรูปจะต้องปลื้มใจอย่างแน่นอน นอกเหนือจากนี้ ที่นี่ยังมีไฮไลต์เด็ดอย่าง “สวนกวางนารา (Nara Park)” ที่เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางเมือง ให้คุณดื่มด่ำและสัมผัสกับกวางอย่างใกล้ชิด แถมบริเวณโดยรอบก็ยังมีสถานที่เที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Todaiji Temple, Kasuga Taisha และ Nara National Museum เรียกได้ว่ามาที่เดียวก็เก็บความสนุก และภาพสวย ๆ ได้อีกมากมายเลย
4. โยโกฮาม่า (Yokohama) - เมืองท่าเก่าแก่ขนาดใหญ่และสำคัญที่สุดในญี่ปุ่น
ตามรอยแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตที่มักจะปรากฏอยู่ในซีรีส์ญี่ปุ่นอยู่บ่อย ๆ อย่าง “เมืองโยโกฮาม่า (Yokohama)” เมืองท่าเปิดแห่งแรกในญี่ปุ่นที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 150 ปี แม้จะได้รับความเสียหายอย่างหนักในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ก็ได้รับการบูรณะจนกลับมาเป็นเมืองที่น่าไปเยือนมากที่สุดแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้!
ในปัจจุบันที่โยโกฮาม่าก็มีทั้งย่านธุรกิจ ย่านการค้า ย่านท่องเที่ยว และย่านที่อยู่อาศัยมากมาย จึงทำให้มีแหล่งเช็กอินที่น่าสนใจหลากหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น Landmark Tower อาคารสูง 296 เมตร มองเห็นวิวเมืองแบบพาโนรามา, Yamashita Park สวนสาธารณะริมทะเลบรรยากาศดี รวมไปถึง Museum of the City of Yokohama พิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมเรื่องราวประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเมืองโยโกฮาม่า ใครที่มองหาเมืองท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่ให้กลิ่นอายใกล้เคียงกับเมืองหลวง แต่ก็ยังมีเสน่ห์แห่งประวัติศาสตร์ให้ได้ลิ้มลอง ก็ต้องลองมาที่เมืองนี้เลย
การเดินทาง
เริ่มต้นเที่ยวบินจากสนามบินสุวรรณภูมิ (BKK) และเดินทางไปยังสนามบินนานาชาติฮาเนดะ (HND) ซึ่งเป็นสนามบินหลักของโตเกียว ห่างจากโยโกฮาม่าประมาณ 35 กิโลเมตร สามารถเดินทางจากสนามบินไปยังโยโกฮาม่าได้โดยรถไฟหรือรถบัส
5. นิกโก (Nikko) - เมืองมรดกโลกของประเทศญี่ปุ่น ที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์
ปิดท้ายกันที่ “นิกโก (Nikko)” เมืองมรดกโลกที่มีชื่อเสียงในด้านความสวยงามของวัดและศาลเจ้าต่าง ๆ จนได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกโดย UNESCO ในปี ค.ศ. 1999 โดยมีสถานที่สำคัญน่าไปเยือนมากมาย ทั้ง Nikko Toshogu ศาลเจ้าที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับโชกุนโทกุกาวะ อิเอยาซุ โชกุนคนแรกของรัฐบาลโชกุนโทกุกาวะ, Shinkyo Bridge สะพานหินสีแดงอันสวยงามที่ทอดข้ามแม่น้ำโคโมะ และ Kegon Falls น้ำตกที่สูงที่สุดในนิกโกที่มีความสูงประมาณ 97 เมตร ใครที่ชอบไปเยือนสถานที่ทางประวัติศาสตร์ เก็บเกี่ยวความเป็นธรรมชาติและกลิ่นอายดั้งเดิม ก็ต้องห้ามพลาดเมืองแห่งนี้
หลังตัดสินใจได้แล้ว พร้อมจัดการทุกอย่างเสร็จสรรพ ไม่ว่าจะเป็นตั๋วเครื่องบิน งบค่าใช้จ่าย หรือแม้แต่สัมภาระ แต่อย่าลืม! “ประกันเดินทาง” อีกหนึ่งเช็กลิสต์ที่ต้องมีในทุก ๆ ครั้งที่ไปเที่ยว หากใครยังไม่ได้ทำสามารถปรึกษา gettgo ได้เลย! เพราะเรามีแผนประกันเดินทางสุดคุ้มที่ตรงตามความต้องการและงบประมาณ ให้คุณเดินทางไปญี่ปุ่นได้อุ่นใจ เริ่มเช็กเบี้ยประกันเดินทาง และซื้อง่าย ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ได้เลย! สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร 02-111-7800 หรือ LINE OA : @gettgo
ข้อมูลอ้างอิง
- เที่ยวญี่ปุ่น เมืองไหนดี กับ 15 เมืองเด็ด ที่ต้องไปเยือน!. สืบค้นเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 จาก https://www.mushroomtravel.com/page/best-places-to-visit-japan/
- 12 เมืองน่าเที่ยว ญี่ปุ่น โดนใจทุกสไตล์ เที่ยวญี่ปุ่น เมืองไหนดี ?. สืบค้นเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 จาก https://travel.trueid.net/detail/6Raqabl4qaNR